< Previousและนักวิจัยไม่ควรคํานึงถึงเฉพาะบริบทของ ตนเองเท่านั้น เนื่องจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการเลือกใช้เทคโนโลยีการศึกษายังประกอบด้วย กลุ่มผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม สตาร์ทอัพ นักลงทุน อีกทั้งยังมีครูในโรงเรียนต่างๆ ที่เป็นผู้ใช้เทคโนโลยี ไม่ควรจะฟังเพียงนักออกแบบ ผู้ผลิต พันธมิตร หรือผู้เข้าร่วมโครงการเท่านั้น ผู้ก่อตั้งการประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยี สําหรับครูจากทั่วโลก ระบุว่า แวดวงการศึกษา จะอุดช่องว่างนี้ได้ต่อเมื่อมีการพูดคุยหารือกัน ซึ่งมุมมองของครูและนักนโยบายจะมีนัยสําคัญ ต่อการกําหนดนโยบายรองรับเทคโนโลยีการศึกษา พร้อมยํ้าว่าการฝึกอบรมครูและการพัฒนาเส้นทาง อาชีพครูถือเป็นประเด็นที่ควรให้ความสําคัญ โดยเฉพาะการนําเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการศึกษา ควรกําหนดเป็นวาระสําคัญและนํามาพิจารณา ในแผนการลงทุน โอกาสที่หลุดลอยไป Karen Giles หัวหน้าคณะครูของโรงเรียน Barham Primary School ในสหราชอาณาจักร อธิบายว่าในบริบทของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ความคิดเห็นของครูไม่ได้ถูกรับฟังบ่อยครั้งมากพอ เนื่องจากมีการเปิดรับฟังมุมมองต่างๆ เพียงเล็กน้อย อีกทั้งหลายครั้งมีการลงความเห็นคลุมเป็นนัยทั่วไป ทําให้มองข้ามความต้องการเฉพาะเจาะจงในบริบท ของครูแต่ละรายและไม่สามารถตอบสนอง ความต้องการในราคาที่เข้าถึงได้ เธอระบุว่านักพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษา ควรถามให้ตรงประเด็นและรับฟังความคิดเห็น ของบรรดาครู เพื่อทราบถึงความต้องการที่แท้จริง เนื่องจากครูแต่ละคนล้วนอันเป็นผลจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยอธิบายว่าแม้เด็กๆ ได้รับการบริจาคแล็ปท็อป และอุปกรณ์จากบริษัทต่างๆ เพื่อใช้ในการเล่าเรียน แต่เด็กบางคนอาจเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้บ้าง หรือไม่สามารถเชื่อมต่อได้เลยในช่วงเกิดโรคระบาด ตัวอย่างเช่น ในห้องเรียนห้องหนึ่ง เด็กนักเรียน ต้องใช้โทรศัพท์และแพ็คเกจการใช้ข้อมูลของ พ่อแม่ เพื่อเข้าถึงการเรียนออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ โรงเรียนจึงต้องพานักเรียนกลับมาโรงเรียน เพื่อจัดทําสําเนาแบบฝึกหัดและส่งมอบด้วยมือแทน ซึ่งเธอเชื่อว่า EdTech จะเป็นหนทางในการแก้ไข ปัญหานี้ได้ “เมื่อพวกเขาฟังเรื่องราวประสบการณ์จริง จากผู้ฟังในการประชุมสุดยอดนี้และผู้มีบทบาท ในชุมชนและการประชุมนี้ พวกเขาจะทราบถึง การขาดพัฒนาการด้านทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก (Fine Motor Skills) ขาดการพัฒนาความ มั่นใจ ความเป็นอิสระ การจดจําการอ่านเขียนและ การคํานวณพื้นฐาน ไปจนถึงขาดความสามารถ ในการเขียนในหลักสูตรการเรียนการสอน นักพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษา ควรถามให้ตรงประเด็นและรับฟัง ความคิดเห็นของบรรดาครู เพื่อทราบถึงความต้องการที่แท้จริง 28 • วิทยาจารย์Mayank Dhingra ผู้นําธุรกิจการศึกษาอาวุโส ของ HP ประจําภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรปตะวันออก ให้มุมมองว่าครูเผชิญ ความกดดันอย่างหนักที่ต้องปรับแนวทางการเรียน การสอน เพื่อรองรับโมเดลการเรียนแบบไฮบริด และออนไลน์ โดยชี้ว่าครูจําเป็นต้องได้รับคําแนะนํา จากผู้เชี่ยวชาญในทุกแง่มุม เพื่อปรับตัวสู่ยุคการเรียนรู้ แบบดิจิทัล และเทคโนโลยีการศึกษามีศักยภาพที่จะ ยกระดับผลลัพธ์การเรียน ก่อให้เก ิ ดความเท่าเทียมกัน สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และช่วยให้ครูมีเวลา เตรียมการเรียนการสอนมากขึ้น อ้างอิง • https://www.thenationalnews.com/ uae/2022/03/26/teachers-need-to-be-at-the- heart-of-decision-making-over-classroom- technology/ • https://t4.education/events/teacher-tech- summit/teacher-tech-summit-2022/ วิทยาจารย์ • 2930 • วิทยาจารย์ หนึ ่ งโรงเรียน หนึ ่ งนวัตกรรม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็ก เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์เป็นเวลาหลายเดือน จึงทําให้เกิดการวิจัยเชิงทดลองเพื่อฟื้นฟูความรู้ที่ถดถอยของเด็กนักเรียน เรื่อง อักษราภัค ลาภานันต์ สมุทรสาครโมเดล ต้นแบบฟื้นฟูการเรียนรู้เพื่อเด็กทุกคนส มุทรสาครเป็นจังหวัดหนึ่งในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการปิดโรงเรียน นานกว่าพื้นที่อื่นในประเทศไทย โดยมีระยะเวลา การปิดโรงเรียนและใช้ระบบการเรียนออนไลน์แทน เป็นเวลากว่า 1 ปี ขณะที่นักเรียนในพื้นที่จํานวนมาก มาจากครอบครัวยากจน ทําให้มีข้อจํากัดในการใช้ เทคโนโลยีสําหรับการเรียนออนไลน์ รวมถึง สภาพแวดล้อมที่บ้านไม่เอื้ออํานวยต่อการเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จึงได้ริเริ่ม ความร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ มูลนิธิโรงเรียน สตาร์ฟิชคันทรีโฮม สถาบันวิจัยเพื่อการประเมิน และออกแบบนโยบาย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และจังหวัดสมุทรสาคร ในการออกแบบและดําเนิน โครงการ “สมุทรสาครโมเดล” เพื่อฟื้นฟูความรู้ ที่ถดถอย และป้องกันเด็กหลุดออกจากระบบ การศึกษา ดร. ภูมิศรัณย์ ทองเลี่ยมนาค รักษาการ ผู้อํานวยการสถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา (กสศ.) ระบุว่า โครงการนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลองเพื่อฟื้นฟูความรู้ที่ถดถอย จากการปิดเรียนในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยมีมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮม เป็นผู้ดําเนินการ เข้าไปใช้แนวคิดการเรียนการสอน การพัฒนาครู การออกแบบวิธีการที่ช่วยพัฒนา โรงเรียนและช่วยให้เด็กเรียนได้ทัน ทั้งนี้ ดร. ภูมิศรัณย์ ชี้ว่า การที่เด็กกลับมา โรงเรียนหลังจากอยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน ทําให้เด็ก แต่ละคนมีความรู้ไม่เท่ากัน จึงต้องมีการประเมิน จากครูว่าแต่ละคนอยู่ระดับไหน และจะสอนอย่างไร ให้เด็กเรียนทันเพื่อน โดยมีวิธีการ เช่น การเรียนเสริม ในวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ การใช้ Learning Box ซึ่งจะเป็นกล่องมีปากกา สมุด ดินสอ เป็นสื่อ นักเรียนในพื้นที่จํานวนมากมาจาก ครอบครัวที่ยากจน ทําให้มีข้อจํากัด ในการใช้เทคโนโลยีสําหรับการเรียน ออนไลน์ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่บ้าน ไม่เอื้ออํานวยต่อการเรียนรู้ วิทยาจารย์ • 3132 • วิทยาจารย์ การเรียนการสอนที่เด็กสามารถเอาไปเรียนที่บ้าน ได้โดยที่ครูจะได้รับการอบรมเพื่อไปสอนและ ติดตามให้เด็กใช้สื่อต่างๆ และหาวิธีการสอน แบบต่างๆ ปัจจุบันมีการดําเนินโครงการฟื้นฟูความรู้ ถดถอยในโรงเรียน 40 แห่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร โดยใช้ทีมงานมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮม เป็นผู้ดําเนินการและดูมาตรการที่เหมาะสมกับ แต่ละโรงเรียน นอกจากนี้ ยังมีการประเมิน และติดตามผลโดยสถาบัน RIPED มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย โดยจะวัดผลในช่วงปลายปี เพื่อประเมินว่าแต่ละวิธีการที่นําไปใช้ประสบ ความสําเร็จมากน้อยแค่ไหน “คิดว่าสมุทรสาครโมเดลก็อาจจะเป็นต้นแบบ ที่จังหวัดอื่นๆ หรือโรงเรียนอื่นๆ สามารถนําไป ประยุกต์ใช้ได้ เช่น มีการใช้ Learning Box ที่ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ได้ในช่วงเวลาที่อยู่ที่บ้าน หรือวิธีการเรียนการสอนแบบ Active Learning ให้ครูเข้ามาอํานวยความสะดวกเด็กในการเรียนรู้ มีแนวทางการทดลอง การพัฒนาวิธีการสอนของครู ทําให้ครูสอนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างเครือข่าย และการวางแผนการเรียนให้ กับเด็กเป็นรายบุคคล ไปจนถึงการดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพใจของเด็ก” ดร. ภูมิศรัณย์ กล่าว อ้างอิง • https://www.unicef.org/thailand/media/7671/ file/UNICEF's%20response%20to%20the%20 COVID-19%20pandemic%20in%20Thailand.pdf • https://www.eef.or.th/infographic-10-10-20/ • https://www.youtube.com/ watch?v=EHN7BCXPvV8 • https://prd.go.th/th/content/category/detail/ id/9/iid/61151 การที่เด็กกลับมาโรงเรียน หลังจากอยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน ทําให้เด็กแต่ละคนมีความรู้ ไม่เท่ากัน จึงต้องมีการประเมิน จากครูว่าแต่ละคนอยู่ระดับไหน และจะทําการสอนอย่างไร ให้เด็กเรียนทันเพื่อน วิทยาจารย์ • 33 องค์ประกอบส�ำคัญ โครงการฟื้นฟูการเรียนรู้ที่ถดถอยในพื้นที่ จังหวัดสมุทรสาคร ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องเรียน ไม่ทันเพียงเท่านั้น แต่มีหลากหลายมิติ โดยมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮมยังระบุถึง องค์ประกอบในการวางมาตรการ ดังนี้ 1. การประเมินสภาพแวดล้อมทั้งระบบ (Landscape Assessment) พิจารณาตั้งแต่การเรียนรู้ที่ถดถอย ช่องว่างของการเรียนรู้ ข้อมูลครอบครัว ความต้องการพื้นฐาน เทคโนโลยี การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 2. การวางแผนของโรงเรียนทั้งระบบ (Whole School Planning) ในการขับเคลื่อนในโรงเรียนและชุมชน ไม่ว่าจะเป็นคณะทํางาน ของโรงเรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ระยะเวลา ความปลอดภัย ทรัพยากร งบประมาณ 3. การสนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพครู (PD Support for Teacher) เป็นการสนับสนุน ส่งเสริมด้านเครื่องมือ และพลังให้แก่ครู เพื่อที่ครูจะได้เห็น ช่องว่างระหว่างการเรียนรู้ สามารถบูรณาการในหลักสูตรได้ 4. การช่วยเหลือนักเรียน (Intervention and Support for Students) การเรียนเฉพาะบุคคล/กลุ่ม การเรียนเสริม อุปกรณ์การเรียน การสนับสนุนด้านสุขภาวะ การช่วยเหลือทางครอบครัว 5. การติดตาม ปรับปรุง และผลสะท้อนกลับ (Monitoring and Invention Redesign) การพัฒนา ผลตอบรับ การประเมินเรื่อง ปรารถนา สําราญสุข ธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ ความหวังแห่งการพัฒนา คุณภาพประชากร แนวคิด “ธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ” เป็นอีกหนึ ่ งแนวทางการปฏิรูป การศึกษา เพื่อรองรับนโยบายการพัฒนากําลังคนตลอดทุกช่วงวัย เพราะการเข้าถึงองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และทักษะใหม่ๆ ไม่ควรถูกจํากัดให้อยู่ในช่วงวัยใดวัยหนึ ่ ง 34 • วิทยาจารย์ Frame Fullธ นาคารหน่วยก ิ ตแห่งชาติ (Credit Bank System) หรือ CBS เป็นแนวคิดหนึ่งซึ่งแวดวงการศึกษา กําลังพยายามผลักดันในฐานะนโยบาย เพื่อพัฒนาคุณภาพประชากร โดยเน้นไปที่ การพัฒนาระบบที่เชื่อมโยงเพื่อให้การศึกษาเป็นสิ่งที่ ประชากรทุกช่วงวัยสามารถเข้าถึงและสามารถนํา “ความรู้” ฝากไว้ในบัญชีส่วนบุคคล โดยเป็น ลักษณะแบบหน่วยกิตที่ถูกรับรองจากหลากหลาย รูปแบบการเรียนรู้ ทั้งสถาบันการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนแล้วเก็บสะสมหน่วยก ิ ต และเก็บไว้เพื่อใช้ในการต่อยอดการศึกษา และเทียบโอนเครดิตผ่านระบบที่เชื่อมโยงกัน โดยประชาชนสามารถนําหน่วยกิตที่เก็บสะสม ไว้ไปใช้ประโยชน์ด้านการต่อยอดการศึกษาและ ด้านอาชีพได้ในทุกๆ องค์กรและสถาบันในประเทศ ที่มีการรับรอง แนวคิดธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ จึงทําให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษาได้รูปแบบ เพิ่มโอกาสในการศึกษาแก่ประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น วัยเรียน วัยทํางานหรือวัยผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้เก ิ ดวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ให้แก่ประชากรในประเทศ หยุดระเบิดเวลาปัญหาด้านประชากร ด้วยการศึกษาตลอดชีวิต การพัฒนาการศึกษาและการส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิตของประชากรถูกพูดถึงเป็นอย่าง มากในฐานะแนวคิดที่สําคัญที่จะช่วยแก้ปัญหา ด้านประชากรของประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันกําลัง ประสบปัญหาอัตราการเกิดลดตํ่าลงเป็นอย่างมาก โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวเก ิ ดขึ้นต่อเนื่องมาเป็น เวลาหลายปี การศึกษาในปี 2564 พบว่า อัตรา การเกิดของประเทศไทยตํ่าสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นปีแรกที่อัตราการเกิดน้อยกว่าอัตรา การตาย ซึ่งไม่เพียงพอต่อการทดแทนจากการสูญเสีย ประชากรไปจํานวนมากในช่วงการระบาดใหญ่ ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อประกอบกับ การที่ประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ อย่างสมบูรณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน สถานการณ์ ด้านประชากรของประเทศไทยจึงอยู่ในภาวะ ที่สุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก ในปี 2564 พบว่าอัตราการเกิดของ ประเทศไทยตํ ่ าสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นปีแรกที่อัตราการเกิดน้อยกว่า อัตราการตาย ซึ ่ งไม่เพียงพอต่อ การทดแทนจากการสูญเสียประชากร วิทยาจารย์ • 35ปรากฏการณ์ด้านประชากรที่กําลังเก ิ ดขึ้นนี้ ทําให้ประเทศไทยขาดกําลังแรงงานที่มีทักษะ การพัฒนาประเทศในอนาคต เกิดภาวะที่วัยทํางาน จะต้องแบกรับความรับผิดชอบในหลายด้าน จนไม่มีเวลาในการพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม การขาดแรงงานที่มีทักษะ อาจส่งผลให้ประเทศไทย ยังคงติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง การพัฒนา ให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ทําได้ลําบากมากขึ้น ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวยังมีมิติทางด้านเศรษฐกิจ และสังคมซ้อนทับอยู่อย่างแยกไม่ออก ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาจึงไม่ใช่เพียงการสนับสนุน ด้านการเจริญพันธุ์ ทั้งยังเป็นวิธีการที่เห็นผลช้าและ อาจไม่ทันกับปัญหาที่ตามมา อย่างไรก็ตามวิธีการ ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในการพัฒนาประเด็น ด้านประชากรที่ได้ผลในเวลานี้ คือการพัฒนา การศึกษาให้แก่ประชากรทุกช่วงวัย ให้เป็น ประชากรที่มีคุณภาพ มีทักษะที่เหมาะสมกับ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งรูปแบบของธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติได้กลาย มาเป็นเครื่องมือสําคัญในการพัฒนาคุณภาพ ประชากรของในหลายๆ ประเทศทั่วโลก แนวคิดการสะสมการเรียนรู้ แนวคิดการจัดตั้งธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ แรกเริ่มนั้นมาจากแนวคิดการสะสมการเรียนรู้ ของผู้เรียนในระดับอุดมศึกษา (Academic Credit Bank) ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นมิตรแก่ผู้เรียน ด้วยการเปิดโอกาสให้เรียนเข้าถึงการ "สะสม หน่วยกิต" จากสหสาขาวิชาชีพที่แตกต่างกัน ทั้งภายในสถาบันและข้ามสถาบัน ดังนั้น ผู้เรียน จึงมีอิสระในการเลือกระดับปริญญาของตนเอง รวมถึงเลือกได้ว่าอยากจะสําเร็จการศึกษาจาก สถาบันการศึกษาแห่งใด โดยที่สาขาวิชาและ สถาบันการศึกษาที่ผู้เรียนจบการศึกษาอาจไม่ใช่ วิชาแรกที่ได้เลือกเรียนหรือที่แรกที่เคยเรียน โดยไม่จํากัดอยู่เพียงแต่การศึกษาภายในระบบ แต่ยังรวมถึงการศึกษาในรูปแบบอื่นๆ ที่ถูกรองรับ โดยแนวคิดสําคัญที่ประกอบขึ้นเป็น Academic Credit Bank คือ 1. มีการจัดสรรที่ดี (Allocation) หรือการมี หน่วยก ิ ตจํานวนมากที่มาจากหลากหลายหลักสูตร และหลากหลายสถาบันเพื่อรองรับรูปแบบการให้ อิสระอย่างเต็มที่แก่ผู้เรียนในการเรียนรู้ 2. สามารถสะสมไว้ได้ (Accumulation) กล่าวคือผู้เรียนสามารถสะสมหน่วยก ิ ตส่วนบุคคล เพื่อรับการรับรองในการจบการศึกษา หรือสะสมไว้ เพื่อบรรลุเป้าหมายส่วนบุคคลซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ หลักของการเรียนรู้ตลอดชีวิต 3. การให้รางวัล (Awarding) คือ การที่ผู้เรียน ได้รับการประเมินผลอย่างเหมาะสมและได้รับ การรับรองอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาได้บรรลุ ผลการเรียนรู้ตามที่ระบุ ซึ่งจะได้รับผลตอบแทน เป็นหน่วยกิตที่สามารถใช้รับรองหรือเทียบโอนได้ ต้นแบบการแก้ไขมายาคติ ทางการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ ประเทศเกาหลีใต้ถือเป็นประเทศต้นแบบ ในด้านการศึกษา อย่างไรก็ตามสังคมเกาหลีใต้ มีค่านิยมในเชิงยกย่องผู้ที่จบการศึกษาในระดับ 36 • วิทยาจารย์อุดมศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจบจากสถาบัน การศึกษาที่มีชื่อเสียงของประเทศจะสามารถ เพิ่มต้นทุนทางสังคมของคนคนนั้นได้มาก ดังนั้น เรามักจะได้ยินข่าวความเคร่งเครียด ของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศเกาหลีใต้ ทุกๆ ปี ซึ่งกลายมาเป็นวาระแห่งชาติที่คน ทั้งประเทศจะต้องเฝ้ารอว่าลูกหลานจะทําสําเร็จ หรือไม่ ในขณะที่หากไม่สําเร็จ เด็กชาวเกาหลีใต้ ที่สอบไม่ได้ก็อาจจะไม่สามารถเดินบนเส้นทางชีวิต ที่สวยงามได้เท่ากับคนที่สมหวัง ดังนั้น รัฐบาล จึงริเริ่มนําแนวคิดการสะสมการเรียนรู้มาใช้ ในนโยบายการศึกษาของประเทศ เพื่อแก้ปัญหา ทัศนคติต่อการศึกษาของคนในชาติ ที่ละเลย ความสําคัญของการศึกษาในรูปแบบอื่นๆ นอกเหนือไปจากการศึกษาในสถาบันการศึกษา ที่มีชื่อเสียง โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ผลักดัน ให้แนวคิดนี้เป็นกฎหมาย ซึ่งทําให้เกิดการตื่นตัว เป็นอย่างมากในแวดวงการศึกษาของประเทศ แนวคิดนี้ได้ปิดช่องโหว่ในเรื่องความเหลื่อมลํ้า ทางการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ด้วยการให้ การรับรองการศึกษานอกหลักสูตรอื่นๆ ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมและองค์ความรู้ ที่เกิดขึ้นภายนอกสถาบันการศึกษา เพื่อมุ่งสู่ การเป็นสังคมที่สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ ช่วยพัฒนากําลังคนทุกช่วงวัย ธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ เป็นแนวคิดที่ต้องการ เปิดโอกาสให้คนทุกคน ทุกช่วงวัยสามารถเข้าถึง การเรียนรู้ได้โดยไร้ข้อจํากัด ไม่ว่าจะเป็นข้อจํากัด ทางด้านเวลา อายุ หรือทุนทรัพย์ เช่น วัยที่กําลัง ศึกษาอยู่ในโรงเรียน หรือนิสิตนักศึกษาที่กําลัง เตรียมพร้อมก้าวสู่โลกของการทํางาน วัยแรงงาน ที่อยากจะเพิ่มทักษะในด้านต่างๆ หรือวัยผู้สูงอายุ ที่ต้องการจะเรียนรู้ให้ทันยุคทันสมัย ก็สามารถ เลือกหัวข้อที่อยากศึกษาและเหมาะสมกับเงื่อนไข ในชีวิตของตนเองและเริ่มต้นเรียนรู้ในเรื่องใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา หากแนวคิดนี้ถูกขานรับและผลักดัน จากรัฐบาล องค์กร และหน่วยงานต่างๆ ในประเทศ เพื่อปรับใช้ในนโยบายการศึกษาของประเทศไทย แนวคิดดังกล่าวก็จะเป็นเสมือนเครื่องมือที่จะช่วย พัฒนาประชากรของประเทศ ให้พร้อมรับมือกับ ความท้าทายใหม่ๆ ได้อย่างยั่งยืน อ้างอิง • Critical Review of Credit Bank System in South Korea: A New Mediator for Lifelong Learning? • https://newprairiepress.org/cgi/viewcontent. cgi?article=3314&context=aerc • Demystifying: Academic Bank of Credits (ABC) • https://pdiwan.medium.com/demystifying- academic-bank-of-credits-abc-9ec9dee6f079 • For a Lifelong Learning of Adults ACADEMIC CREDIT BANK SYSTEM • https://www.cb.or.kr/creditbank/info/nInfo7_1.do • ‘Lifelong Learning’ ทักษะศตวรรษที่ 21 ที่ต้องมีติดตัว เพื่อให้รอดจากวิกฤตเลิกจ้าง • https://www.salika.co/2019/11/17/lifelong- learning-skill-for-survive/ วิทยาจารย์ • 37Next >